Doxycycline และ Tetracycline เป็นยาปฏิชีวนะที่ใช้ในการรักษาสิว โดยเฉพาะสิวอักเสบ ทั้งสองมีคุณสมบัติที่ช่วยลดการอักเสบและเชื้อแบคทีเรียในรูขุมขน แต่มีความแตกต่างกันในด้านของการใช้งานและผลข้างเคียง
กลไกการทำงาน
- Doxycycline: เป็นยาปฏิชีวนะที่ทำงานโดยการยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย Propionibacterium acnes ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของสิว ช่วยลดการอักเสบในผิวหนัง
- Tetracycline: มีการทำงานคล้ายกับ doxycycline โดยการยับยั้งการสังเคราะห์โปรตีนของแบคทีเรีย จึงช่วยลดจำนวนเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดสิว
การดูดซึมและการรับประทาน
- Doxycycline: ดูดซึมได้ดีและมีระยะเวลาครึ่งชีวิตที่นานกว่า จึงสามารถใช้วันละ 1-2 ครั้ง ซึ่งสะดวกต่อการใช้งาน
- Tetracycline: อาจต้องใช้บ่อยกว่า (2-4 ครั้งต่อวัน) เนื่องจากมีระยะเวลาครึ่งชีวิตที่สั้นกว่า และอาจมีปัญหาเรื่องการดูดซึมในกรณีที่มีการบริโภคอาหารหรือผลิตภัณฑ์ที่มีแคลเซียม
ผลข้างเคียง
- Doxycycline: อาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองในทางเดินอาหาร ผิวไวต่อแสงแดด (photosensitivity) และไม่แนะนำให้ทานคู่กับยารักษาสิว Acnotin เพราะมีโอกาสทำให้เกิดความดันในสมองสูง (ข้อมูลจาก นพ.พิวานนท์ พรมนิเทศ)
- Tetracycline: มีผลข้างเคียงคล้ายคลึงกัน แต่มีแนวโน้มที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนสีของฟันและการสะสมในกระดูกได้มากกว่า ไม่ควรใช้ในเด็กอายุต่ำกว่า 8 ปี
ความเหมาะสมในการใช้
- Doxycycline: มักถูกเลือกใช้ในการรักษาสิวอักเสบในผู้ใหญ่ เนื่องจากมีการใช้งานที่สะดวกและผลข้างเคียงน้อยกว่า
- Tetracycline: อาจใช้ในกรณีที่ doxycycline ไม่สามารถใช้ได้ แต่ควรพิจารณาถึงผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นในผู้ป่วยที่อายุน้อย
การป้องกันการดื้อยา
ควรกินให้ต่อเนื่องและครบโดสตามที่แพทย์แนะนำ และควรใช้ยาทาควบคู่ด้วย เช่น ยาทา Benzac, ยาทา Differin หรือยาอื่นๆ ที่มีส่วนช่วยในการฆ่าเชื้อ เพื่อลดโอกาสในการดื้นยา