Benzac เป็นผลิตภัณฑ์ยาทาสิวที่มีสารออกฤทธิ์หลักคือ Benzoyl Peroxide ซึ่งเป็นส่วนผสมที่มีประสิทธิภาพในการรักษาสิวโดยเฉพาะ สิ่งนี้ช่วยลดการอักเสบและฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดสิว โดยมักใช้ในรูปแบบครีม เจล หรือโลชั่น
การทำงานของ Benzac
- ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย: ช่วยลดจำนวนแบคทีเรีย Propionibacterium acnes ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเกิดสิว
- ลดการอักเสบ: ช่วยบรรเทาอาการอักเสบและทำให้สิวมีขนาดเล็กลง
- ผลัดเซลล์ผิว: มีคุณสมบัติในการผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกจากรูขุมขน ทำให้ลดการอุดตัน
เหมาะกับสิวแบบไหน?
- สิวหัวดำ (Open Comedones)
- สิวหัวขาว (Closed Comedones)
- สิวอักเสบ (Inflammatory Acne) เช่น สิวหนองและสิว cystic
วิธีการทา Benzac
- ทำความสะอาดผิว: ล้างหน้าด้วยน้ำและสบู่อ่อนๆ แล้วเช็ดให้แห้ง
- ทายา: ใช้ปลายนิ้วหรือสำลีแต้มเจลหรือครีม Benzac ลงบนบริเวณที่มีสิว โดยไม่ต้องทาเกินขอบเขตของสิว
- ความถี่ในการใช้: แนะนำให้ใช้ 1-2 ครั้งต่อวัน (เช้า ก่อนนอน) ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของสิวและการตอบสนองของผิว แต่ผู้ที่เริ่มต้น แนะนำให้ทาแค่ก่อนนอน หรือทาทิ้งไว้ 15 นาทีแล้วล้างออก ถ้าไม่แสบ ไม่ลอกก็ค่อนทานานขึ้น หรือทาทิ้งไว้ทั้งคืน ยังไม่ควรทาทั้งเช้าและเย็น
ข้อควรระวังในการทา Benzac
- ระคายเคือง: อาจทำให้เกิดอาการแห้ง แดง หรือคัน ควรเริ่มใช้ในปริมาณเล็กน้อย
- หลีกเลี่ยงบริเวณรอบดวงตา: หลีกเลี่ยงการทาในบริเวณที่ใกล้เคียงกับดวงตา เนื่องจากอาจทำให้ระคายเคือง
- การใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์อื่น: ควรระมัดระวังในการใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์ที่มีสารระคายเคืองสูง เช่น เรตินอยด์หรือกรด AHAs/BHAs
ระยะเวลาที่ต้องทา
- ระยะเวลาในการรักษา: Benzac สามารถใช้ได้ต่อเนื่องตั้งแต่ 4-12 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับการตอบสนองของผิวและการรักษาที่แนะนำโดยแพทย์ แต่หากยังมีสิวขึ้นเรื่อยๆ แพทย์อาจแนะนำให้ทาต่อเนื่องทุกคืนในช่วงที่สิวเห่อ
- การติดตามผล: ควรมีการตรวจสอบผลการรักษาและปรับการใช้ยาให้เหมาะสมตามคำแนะนำของแพทย์
Benzac กับ Differin ต่างกันอย่างไร
Benzac และ Differin เป็นยาทาสิวที่มีสารออกฤทธิ์แตกต่างกันและทำงานในรูปแบบที่ไม่เหมือนกัน ทั้งสองชนิดมีประสิทธิภาพในการรักษาสิว แต่เหมาะสำหรับสภาพผิวและประเภทสิวที่แตกต่างกัน
1. สารออกฤทธิ์
- Benzac: มีสารออกฤทธิ์หลักคือ Benzoyl Peroxide ซึ่งทำงานโดยการฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดสิว ลดการอักเสบ และผลัดเซลล์ผิว
- Differin: มีสารออกฤทธิ์หลักคือ Adapalene ซึ่งเป็นอนุพันธ์ของเรตินอยด์ ช่วยในการปรับเปลี่ยนการผลัดเซลล์ผิว ลดการอุดตันในรูขุมขน และลดการอักเสบ
2. กลไกการทำงาน
- Benzac: ทำงานได้อย่างรวดเร็วในการลดจำนวนแบคทีเรียและช่วยรักษาสิวอักเสบและสิวอุดตัน มักมีการตอบสนองที่เห็นได้เร็วในช่วงแรก
- Differin: ทำงานช้ากว่า แต่มีประสิทธิภาพในการปรับโครงสร้างผิวในระยะยาว ลดการเกิดสิวใหม่ และช่วยให้ผิวเรียบเนียนขึ้นเมื่อใช้อย่างต่อเนื่อง
3. ประเภทสิวที่เหมาะสม
- Benzac: เหมาะสำหรับการรักษาสิวอักเสบ เช่น สิวหัวหนองและสิว cystic รวมถึงสิวอุดตัน
- Differin: เหมาะสำหรับสิวอุดตัน (Comedonal Acne) และสามารถช่วยป้องกันการเกิดสิวใหม่ได้
4. วิธีการใช้
- Benzac: ใช้ได้ 1-2 ครั้งต่อวัน หลังจากทำความสะอาดผิว โดยควรเริ่มจากปริมาณน้อยเพื่อดูการตอบสนองของผิว
- Differin: มักแนะนำให้ใช้ในช่วงเย็นวันละครั้ง โดยทาลงบนบริเวณที่มีสิวและหลีกเลี่ยงบริเวณรอบดวงตา
5. ข้อควรระวัง
- Benzac: อาจทำให้ผิวแห้งหรือระคายเคือง ควรใช้ตามคำแนะนำและอาจต้องใช้ครีมบำรุงร่วมด้วย
- Differin: อาจทำให้เกิดการระคายเคืองและแห้งในช่วงแรก ควรเริ่มใช้อย่างช้า ๆ และหลีกเลี่ยงการใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์ที่มีสารระคายเคืองอื่น ๆ